วันนี้ #kittykawaii #softcontactlens จะมาไขข้อสงสัยที่หลายๆคนสับสนตัวย่อข้างขวด หรือเวลาเลือกซื้อ #คอนแทคเลนส์ ว่า DIA, effect, B.C. มันคืออะไรกันแน่นะ ⁉️
1. DIA ย่อมาจาก Diameter แปลว่า เส้นผ่านศูนย์กลาง ⭕ หรือความกว้างของเลนส์เมื่อวัดจากฐานเลนส์ในแนวราบ
โดยทั่วไป DIA = 14.5 คือความกว้างมาตราฐานของเลนส์ที่กำลังพอดีตาค่ะ
*หน่วยวัด คือ มิลลิเมตร (จะสัมพันธ์กับค่า effect ที่จะอธิบายต่อไปค่ะ)
2. Effect คือขนาดพื้นที่การพิมพ์สีบนตัวเลนส์ จะเป็นตัวบ่งบอกความโตของเลนส์นั้นๆเมื่อเราใส่เข้าไปในตาของเรา ค่า effect จะได้มาจากการกดเลนส์ให้แบนแล้ววัดขนาดเฉพาะพื้นที่สีของเลนส์ (ไม่วัดส่วนที่เป็นขอบใส) ถ้าเป็น #bigeyes จะได้ค่ามากกว่า DIA แต่ถ้าเป็น #minilens จะได้ค่าน้อยกว่า DIA
โดยปกติแล้วเลนส์ทุกรุ่นจะใช้การพิมพ์สีทับลงในเลนส์ใส ซึ่งถ้าพิมพ์ชิดขอบมาก (ค่า effect สูง) เวลาใส่ก็จะทำให้ดูตาโตมาก แต่ถ้าพิมพ์เว้นจากขอบเยอะหน่อย (ค่า effect ต่ำ) ก็จะดูไม่โตค่ะ
**สำหรับคนที่ตาเรียวเล็กแบบคนจีน หรือตาชั้นเดียว การใส่เลนส์ที่มีขนาด effect 14 (mini) จะเหมาะกว่าการใส่ขนาด effect 17-18 (big) ที่อาจล้นตาจนเกิดการเจ็บตาหรือเคืองตาได้ค่ะ
3. B.C. หรือย่อมาจาก Base Curve Radius แปลว่า รัศมีความโค้งของเลนส์ ถ้าใส่เลนส์แล้วหลวมเลื่อนหลุดง่าย (ในกรณีที่ตรวจสอบว่าใส่ถูกด้านแล้ว) ควรจะเปลี่ยนเป็นค่า B.C. ที่น้อยลง แต่ถ้าใส่แล้วเลนส์คับ ปวดตา ปวดหัว ควรจะเปลี่ยนเป็น B.C. ที่มากขึ้นค่ะ
โดยทั่วไป B.C. = 8.6 คือค่ากลางๆที่คนเอเชียส่วนใหญ่สามารถใส่ได้ค่ะ
ติดตามสาระดีๆในตอนต่อไปด้วยนะคะ
1. DIA ย่อมาจาก Diameter แปลว่า เส้นผ่านศูนย์กลาง ⭕ หรือความกว้างของเลนส์เมื่อ
โดยทั่วไป DIA = 14.5 คือความกว้างมาตราฐานของเลน
*หน่วยวัด คือ มิลลิเมตร (จะสัมพันธ์กับค่า effect ที่จะอธิบายต่อไปค่ะ)
2. Effect คือขนาดพื้นที่การพิมพ์สีบน
โดยปกติแล้วเลนส์ทุกรุ่นจะใ
**สำหรับคนที่ตาเรียวเล็กแบ
3. B.C. หรือย่อมาจาก Base Curve Radius แปลว่า รัศมีความโค้งของเลนส์ ถ้าใส่เลนส์แล้วหลวมเลื่อนห
โดยทั่วไป B.C. = 8.6 คือค่ากลางๆที่คนเอเชียส่วน
ติดตามสาระดีๆในตอนต่อไปด้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น